ChiangmaiFX : ก้าวสู่ปีที่ 15 อย่างมั่นคงในการเทรด Forex (2009 - 2024) โดยใช้วิชาเทคนิคอล (สถิติประยุกต์) มาช่วยเพิ่มโอกาสที่จะชนะ

 

Doda Stochastic Indicator

Indicator ตัวนี้ก็ใช้งานเหมือนกับ  stochastic ทั่วไป แต่ตัวนี้จะมีสัญญาณ alert ให้ด้วยว่าตอนไหนควรเข้า Buy หรือ Sell

การเข้า Order ก็เหมือนกับการอ่าน Stochastic ทั่วไป คือเข้า Buy เมื่อเส้นเขียวตัดเส้นแดงขึ้น และเข้า Sell เมื่อเส้นเขียวตัดเส้นสีแดงลง

แต่ตัวนี้จะมีสัญญาณบอกให้เราทราบ ไม่ต้องมานั่งจ้องดูว่าเมื่อไหร่เส้นจะตัดกัน

Double ZigZag NoRepaint Indicator

คือ zigzag ที่แสดงผลเป็นจุด ไม่ใช่เป็นเส้นเหมือน zigzag ธรรมดา จุดเด่นของอินดิเคเตอร์ตัวนี้จะไม่ Repaint คือแสดงผลแล้วไม่ย้ายตำแหน่ง แต่มีข้อด้อย คือจะแสดงผลช้านิดหน่อย

จะได้อินดิเคเตอร์หน้าตา ตามรูป

การใช้งาน : สามารถใช้วิเคราะห์ร่วมกับ Trendline หรือแนวรับแนวต้านประกอบการเปิดออเดอร์ได้

- ใช้ DoubleZigZagNoRepaint + Trendline

- ใช้ DoubleZigZagNoRepaint + Horizontal Line

EMA Indicator คืออะไร และช่วยในการเทรดอย่างไร?

ไขครบทุกข้อสงสัย! EMA Indicator คืออะไร?

ปฏิเสธไม่ได้ว่า Forex หรือตลาดซื้อขายสกุลเงินตราต่างประเทศที่มีความผันผวนพอสมควร ดังนั้นเพื่อพิชิตเป้าหมายการทำกำไร นักเทรดจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาและหาข้อมูลอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นข่าวสารสถานการณ์โลก และรูปแบบการเคลื่อนไหวของกราฟ เพื่อหาจังหวะการเข้าซื้อ และเทขายทำกำไรได้อย่างแม่นยำที่สุด อย่างไรก็ตาม มีนักเทรดจำนวนไม่น้อยที่ไม่มีเวลาเพียงพอที่จะทำเช่นนั้น จึงต้องอาศัยตัวช่วยที่เรียกว่า ‘เครื่องมือบ่งชี้การเทรด’ หรือ ‘Indicator’ ในการช่วยตัดสินใจเพื่อให้เกิดความแม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่ง EMA Indicator คือหนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม นักเทรดหลายท่านอาจจะยังไม่เคยรู้จักว่า EMA Indicator คืออะไร? และมีวิธีการทำงานอย่างไร บทความนี้จะมาช่วยไขข้อสงสัยให้แบบครบจบในที่เดียว รวมถึงไปรู้กันด้วยว่าเส้น Moving Average คืออะไรและใช้อย่างไร ติดตามได้ที่นี่เลย

ทำความรู้จักเส้น Moving Average

ก่อนจะไปลงลึกถึง EMA Indicator คงต้องย้อนกลับไปทำความรู้จักกับองค์ประกอบสำคัญอย่าง ‘เส้น Moving Average’ กันเสียก่อน โดยเส้น Moving Average นั้น คือเส้นค่าเฉลี่ยการเคลื่อนที่ ซึ่งจะเป็นการนำการเคลื่อนไหวของราคา ณ ช่วงเวลาต่าง ๆ มาสร้างเป็นชุดข้อมูลในรูปแบบของกราฟเส้นที่มีความเรียบง่ายและลื่นไหล เพื่อลดการผันผวนด้วยจำนวนวัน 
ซึ่งหากถามว่าเส้น Moving Average ใช้อย่างไร? คำตอบที่ครอบคลุมที่สุดคือใช้เป็นแนวทางในการดูแนวโน้มของตลาด โดยเส้น Moving Average จะสามารถแบ่งออกได้หลายประเภท ได้แก่ SMA (Simple moving average), WMA (Weighted moving average), TMA (Time series moving average) และ EMA (Exponential Moving Average)

แต่อย่างที่เกริ่นไปว่า เครื่องมือที่สามารถช่วยในการตัดสินใจต่อการเทรดอย่าง EMA หรือ Exponential Moving Average กำลังได้รับความนิยมอยู่ในตอนนี้ เราจึงจะขออธิบายรูปแบบการทำงานของเครื่องมือบ่งชี้การเทรดประเภทนี้กันโดยเฉพาะ 

เส้น EMA คืออะไร?

เส้น EMA คือเส้นที่ใช้แสดงค่าเฉลี่ยของราคาของหุ้น หรือในบริบทของตลาด Forex คือค่าเฉลี่ยของสกุลเงินตรา ภายในระยะเวลาที่กำหนดเอง โดยสำหรับ Forex เส้น EMA ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท ได้แก่ 

  • EMA 5 (สัญญาณเร็ว) มาจากค่าเฉลี่ย ราคา 5 วันทำการ
  • EMA 20 (สัญญาณกลาง) มาจากค่าเฉลี่ย ราคา 20 วันทำการ หรือ 1 เดือน
ดังนั้นเมื่อทราบแล้วว่าเส้น EMA คืออะไร ทำให้เรารู้ได้ว่า เมื่อเป็นการเก็บสถิติในอดีตมาทำเป็นกราฟ จึงสามารถใช้เป็นหนึ่งในตัวช่วยวิเคราะห์แนวโน้มราคาความผันผวนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ เส้น EMA จึงกลายเป็นเครื่องมือช่วยเทรดที่เรียกว่า EMA Indicator
โดย EMA Indicator เป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์กับตลาดที่เป็นการเทรด และนักลงทุนสาย Trend Follower นิยมใช้เป็นอย่างมาก 

วิธีการใส่เส้น EMA ในกราฟ MT4

MT4 (MetaTrader 4) คือซอฟต์แวร์สำหรับการเทรด Forex และ CFD (Contract for Difference) ซึ่งมีการใช้งานอย่างแพร่หลายโดยมีฟังก์ชันการเทรดที่ครบครัน เช่น การซื้อขายเงินตราต่างประเทศ การซื้อขาย CFD การวิเคราะห์ราคาหุ้น หรือสินค้าตลาดอื่น ๆ สามารถใช้งานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งทำให้สามารถทำการเทรดได้อย่างสะดวกรวดเร็ว 
เชื่อว่านักลงทุน Forex น่าจะรู้จัก MT4 เป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่อาจยังไม่ทราบว่าเราสามารถนำ EMA Indicator เข้าไปใส่ในกราฟของ MT4 ได้ด้วยโดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
 
1. เปิดโปรแรม MT4 ขึ้นมา แล้วคลิกที่ เมนู จากนั้นไล่ตามลำดับ Insert>Indicators>Trend>Moving Average ดังภาพ
 

เส้น EMA คืออะไร

2. เมื่อเจอคำว่า Moving Average ให้คลิกเข้าไป จะมีหน้าต่างการตั้งค่าปรากฏขึ้นมา จากนั้นให้ทำการกำหนดค่าตามนี้หน้าต่าง Parameter ตั้งค่า ดังนี้

  • Period ใส่ค่าของ EMA 5 หรือ 20 (ในตัวอย่างเป็นการใส่ EMA 5)
  • Shift ให้ใส่ค่ามาตรฐานคือ 0
  • MA method ให้เลือกเป็น Exponential
  • Apply to ให้เลือกเป็น Weighted Close(HLCC/4) ซึ่งก็คือโปรแกรมจะนำราคาสูงสุด,ราคาต่ำสุด และราคาปิดมาคำนวณแล้วค่อยนำมาพล็อตกราฟอีกครั้ง
  • Style คือการเลือกสี และลักษณะของเส้น สามารถเลือกได้ตามความชอบ แต่ควรให้สังเกตเห็นได้ชัดเจน และแต่ละเส้นควรมีสีที่แตกต่างกัน

วิธีใช้ Moving Average ใช้อย่างไร

3. เมื่อตั้งค่าเสร็จสิ้น ให้คลิกที่ OK เราก็จะได้เส้นค่าเฉลี่ยมาอยู่ในกราฟเป็นที่เรียบร้อย โดยถ้าหากต้องการใส่ EMA 20 เพิ่ม ก็ทำตามขั้นตอนข้างบนซ้ำอีกครั้ง ตัวอย่างในภาพด้านล่างที่ได้ใส่ไว้ทั้ง EMA 5 และ EMA 20 โดยให้ EMA 5 เป็นสีเขียว และ EMA 20 เป็นสีเหลือง

EMA Indicator คืออะไร

การเข้าออก Order ด้วย EMA

เมื่อทราบไปแล้วว่าEMA Indicator คืออะไร และสามารถเอาเข้ามาอยู่ในกราฟได้อย่างไร ต่อไปคืออีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญ นั่นคือการวิเคราะห์เข้าออก Order ด้วย EMA Indicator
ดังที่กล่าวเอาไว้ข้างต้นว่า EMA จะใช้ได้ดีในภาวะที่ตลาดเป็น Trend ดังนั้นนักลงทุนจึงควรมองให้ออกก่อนว่าช่วงไหนเป็น Trend หรือเป็น Side Way เนื่องจากหากเราใช้ EMA ในช่วงตลาดที่เป็น Side Way ก็อาจเกิดประสิทธิภาพได้ไม่ดีนัก และเสี่ยงต่อการขาดทุน 
 
รู้หรือไม่? 
 
ตลาด Trend คือรูปแบบของตลาดที่มีการเคลื่อนไหวเป็นแนวอย่างเป็นระบบ ติดต่อกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง โดยส่วนใหญ่จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ ตลาด Trend ขึ้น (Up Trend) และ ตลาด Trend ลง (Down Trend) ตรงกันข้ามกับตลาด Side Way ที่ราคามีการเคลื่อนไหวน้อย อยู่ในกรอบเล็ก ๆ และค่อนข้างคงที่
 
 
อย่างไรก็ตาม หากนักลงทุนมั่นใจแล้วว่าตลาดช่วงนี้คือ Trend แน่ ๆ ก็สามารถใช้ EMA Indicator มาเป็นตัวช่วยในการวิเคราะห์เข้าออก Order ได้เลย ดังเช่นตัวอย่างต่อไปนี้
1. ให้เข้า Order Buy เมื่อเป็น EMA 5 (เร็ว) ตัด EMA 20 (กลาง) ขึ้นด้านบน และออกเมื่อ EMA 5 ตัด EMA 20 กลับคืน
 

EMA Indicator คืออะไร ใช้งานอย่างไร

2. ให้เข้า Order Sell เมื่อเห็น EMA 5 (เร็ว) ตัด EMA 20 (กลาง) ลงด้านล่าง และออก Order เมื่อ EMA 5 ตัด EMA 20 กลับคืน

Moving Average ใช้อย่างไรให้ได้กำไร

ถึงตรงนี้ ทุกคนคงทราบแล้วว่าเส้น Moving Average ใช้งานอย่างไร และ เส้น EMA คืออะไร ซึ่งคงเป็นประโยชน์ให้สามารถนำไปต่อยอดและเป็นแนวทางในการลงทุนตลาด Forex ได้ไม่มากก็น้อย แต่ถ้าหากอยากได้ความรู้เกี่ยวกับการเทรด Forex ที่มากและเจาะลึกกว่านี้ สามารถศึกษากลยุทธ์และองค์ความรู้ต่าง ๆ ได้กับ Chiangmai Forex สถาบันให้ความรู้เกี่ยวกับ Forex ที่มีประสบการณ์อยู่ในตลาดมากว่า 13 ปี  มีทั้งคอร์สปูพื้นฐาน ไปจนถึงเทคนิคขั้นสูง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.chiangmaifx.com และ Facebook : Chiangmai Forex

Extremum Indicator

ช่วยคาดเดาการแกว่งตัวของราคา

Buy : เมื่อ Histogram เป็นสีม่วง

Sell : เมื่อ Histogram เป็นสีเหลือง

FiboPiv-V3 Indicator

ตัวช่วยคำนวณหาค่าแนวรับแนวต้าน การหา Pivot Support และ Resistance ซึ่งวิธีการคำนวณจะใช้ราคาปิด (Close) ราคาสูงสุด ( High) และราคาต่ำสุด (Low) ของวันก่อนหน้ามาใช้ในการคำนวณ โดยการหาค่าพวกนี้ง่ายๆ ก็คือโดยการเอาเม้าไปชี้้ที่แท่งเทียน Daily ดังรูป

เมื่อได้ค่าแล้วก็นำมาใส่สูตร P=(H+L+C)/3  ; C=Close H=High L=Low

P=Pivot , S=Support , R=Resistance

นำ P มาคำนวณหาแนวรับ และแนวต้าน
Support แนวรับ
S1=P-0.382(H-L)
S2=P-0.500(H-L)
S3=P-0.618(H-L)

Resistance แนวต้าน
R1=P+0.382(H-L)
R2=P+0.500(H-L)
R3=P+0.618(H-L)

มีอะไรที่ง่ายกว่านี้ คือ Indicator ชื่อว่า FiboPiv_V.3 เจ้าตัวนี้ลดความยุ่งยากไปได้เยอะเลย เพียงแค่โหลดไปแล้วนำไปใส่ใน Folder experts>Indicator ใน Path ที่เราลง MT4 ไว้เท่านั้น จากนั้นถ้าจะใช้ก็แค่ดึงลงมาใส่ในกราฟ สามารถดึงใส่ได้กับทุก Time Frame และทุกคู่เงิน ที่สำคัญคือทำครั้งเดียวจบ วันต่อไปก็จะคำนวณค่าให้ใหม่ และเปลี่ยนต่ำแหน่งให้โดยอัตโนมัติ